ประวัติ Roy Keane สุดยอดกัปตันทีมพันธุ์ดุ แห่งแมนยูไนเต็ด

รอย คีน เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1971 ในเมืองค๊อค ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอร์แลนด์ โดยที่ครอบครัวของเขา คลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก ทำให้ตัวเขาสนใจในเรื่องฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนในเมืองค๊อค อย่างทีมร็อกเมาส์ ต่อมาใน วัยเพียง 14 ปี รอยคีน ได้มีโอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ แต่ก็ถูกปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่มองว่า รอย คีน นั้นตัวเล็กเกินไป ทำให้ไฟในตัวเขาพลุกพล่านขึ้นมา หลังจากเขากลับมาฝึกซ้อมอย่างหนัก และเข้าร่วมสโมสรแรกในอาชีพการค้าแข้งอย่าง ทีมโคบห์ รัมเบลอ เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนไปเตะตาของ ไบร์อัน เคลาจ์ และได้ติดต่อให้ รอย คีน เข้ามาร่วมทัพกับสโมสร น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวัยเพียง 18 ปี ก่อนจะได้รับโอกาสลงสนามในฤดูกาล 1990-1991 นัดแรกของเขาคือการออกเยือน ลิเวอร์พูล ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในขณะนั้น ถัดมาอีกหนึ่งฤดูกาล เขาลงเล่นให้กับ ฟอเรสต์ อย่างต่อเนื่องสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ รายการที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะอังกฤษ อย่างฟุตบอล เอฟเอ คัพ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่ต้องพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 1-0 และในฤดูกาลนั้น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต้องตกชั้นจากลีกสูงสุด ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษ ต่างพากันให้ความสนใจในตัวเขา รอยคีน ซึ่งเป็นทางด้าน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทุ่มเงินสูงเป็นสถิติสโมสรในเวลานั้น ด้วยจำนวนเงิน 3.75 ล้านปอนด์ กระชากตัว คีโน่ รอย คีน เข้าสู่โรงละครแห่งความฝัน

จุดเริ่มต้นก่อนจะเป็นยอดกัปตัน ในถิ่น โอลด์ เทรดฟอร์ด

ในฤดูกาล 1993-94 การมาของ คีโน่ ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนักกับยูไนเต็ด เขามายกระดับทีมด้วยความมุ่งมั่น และการตัดสินใจทีเด็ดขาด สามารถพาทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาลแรกที่เข้ามาได้สำเร็จ ทำให้เขาถูกเปรียบเทียบกับตำนานแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่าง ไบรอัน ร็อบสัน จากสื่อมวลชนในประเทศอังกฤษ แต่คีโน่เองก็ไม่สนใจสื่อ เขาตั้งหน้าตั้งตา ฝึกซ้อมอย่างหนัก เพราะฤดูกาล 1994-95 ทีมของเขาต้องเสียแชมป์ไปให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนที่จะมาคว้า 2 แชมป์ติดต่อกันในฤดูกาล 1995-96 และ 1996-97 จากนั้นการอำลาทีม ของ เดอะ คิงส์ ก็องโต้ เอริค คันโตนา ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มองเห็นความเป็นผู้นำในตัวของรอย ได้ประกาศแต่งตั้ง รอย คีน ขึ้นมาเป็นกัปตันทีมแทน คันโตนา ทันที ในฤดูกาล 1997-1998 แต่รอย คีน ต้องมาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่า ในเกมพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยอัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์และนั้นคือจุดเริ่มต้นความแค้นของรอย คีน เขาต้องพักทั้งฤดูกาลทันที การไม่มีผู้นำในแดนกลางอย่างรอยคีน ทำให้ทีมเสียสมดุล จนเสียแชมป์ให้กับ อาร์เซน่อล ไปในที่สุด

การเสียสละที่สำคัญสู่ทริปเปิ้ลแชมป์

ฤดูกาล 1998-99 รอยคีนกลับมาบัญชาเกมในแดนกลางให้กับทีม ด้วยสภาพความฟิตที่สมบูรณ์ การมีผู้นำที่สุดยอด ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์ฟุตบอลโดยการคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้ง พรีเมียร์ ลีก ,เอฟเอ คัพ, และยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่เหตุการณ์ที่ต้องพูดถึงกันมากที่สุด คงจะเป็นการเสียสละของเขา ในรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี พบกับ ไอม้าลาย ยูเวนตุส โดยนัดแรก เสมอกันมา 1-1 เป็นยอดทีมจะอิตาลีที่ทำได้ดีกว่า โดยบุกไปยิงประตูได้ในถิ่น โอลด์ เทรดฟอร์ด ทำให้นัดที่ 2 ยูไนเต็ด ไม่มีทางเลือกต้องบุกเพื่อยิงประตูคืนให้ได้ เริ่มเกมไปแค่เพียง 11 นาที แมนฯยู โดน ยูเวสตุส ออกนำไปถึง 2-0 ก่อนจะเป็นรอย คีน มาโหม่งประตูไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 จุดประกายความหวังให้กับยอดทีมจากอังกฤษอีกครั้ง และรอยคีน ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยการเสียบนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่าง ซีเนอดิน ซีดาน ที่กำลังจะบุกไปยิงประตูจนตัวเขาเองต้องรับใบเหลือง และเขาจะพลาดนัดชิงชนะเลิศ ถ้ายูไนเต็ดเข้าถึงรอบชิงได้สำเร็จ เขายอมเสียสละตัวเองเพื่อสโมสร โดยไม่มีการเห็นแก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว จบเกม ยูไนเต็ดพลิกกลับมาชนะยูเวนตุส 3-2 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พบกับ บาเยิร์น มิวนิค นักเตะทุกคนทำเพื่อรอย คีน ในนัดชิงชะเลิศ สวมหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของยอดกัปตันทีม จนพลิกนรกช่วงทดเวลาบาดเจ็บกลับมาชนะ 2-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกอย่างยิ่งใหญ่

การล้างแค้นที่รอคอย

จากปัญหาการเจ็บหนักของรอย คีน ในฤดูกาล 1997-98 เกิดจากการเข้าปะทะของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ โดยเขาเก็บความแค้นจากการที่โดน ฮาแลนด์ ตะโกนใส่หน้าว่า “อย่าสำอ่อย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” จากนั้นเขามีโอกาสจะล้างแค้น 2-3 ครั้ง แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำเพราะตารางคะแนนการแข่งขันยังไม่เป็นใจ จนมาถึงฤดูกาล 2000-01 ในเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เขาได้เปิดปุ่มย่ำ ไปที่หัวเข่าขวาของ ฮาแลนด์ ผู้เป็นพ่อ จนต้องหามออกนอกสนาม คีน ได้รับใบแดงในเกมนั้น ก่อนออกนอกสนามได้ไปตะโกนใส่หน้า อัลฟ์ ฮาแลนด์ เหมือนที่เขาโดนเมื่อ 4ปี ก่อน ว่า “รับไปสะไองั้ง ทีหลังอย่ามาว่ากูสำอ่อยอีก” หลังจากเหตุการณ์นั้นรอยคีนได้ออกหนังสือชีวประวัติของตัวเอง พร้อมพูดถึงเหตุการณ์นั้นว่า เขาตั้งใจที่จะเตะฮาแลนด์ จน อัลฟ์ ฮาแลนด์ ยื่นฟ้องต่อสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จนรอยคีนโดนปรับเงินจากการย่ำใส่ในครั้งนั้น

ปิดตำนานสุดยอดกัปตันทีมของยูไนเต็ด

ในปี 2005 แม้จะจบไม่ค่อยสวยกับแมนฯยู เนื่องจากเขาได้มีปัญหากับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นักเตะรุ่นน้องผ่านสื่อของสโมสร ทำให้ท่านเซอร์ โกรธจัดถึงขัดประกาศว่า รอยคีน จะไม่มีส่วนร่วมกับยูไนเต็ดอีกต่อไป และตัวของรอยคีนก็ไม่เผาผีกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อีกด้วย เพราะเขามองว่าสิ่งที่เขาพูดมันดีต่อสโมสรที่เขารักอย่างยิ่ง หลังจากรอยคีน อำลาถิ่นโอลด์ เทรดฟอร์ดไป ไม่มีใครมาแทนที่ยอดกัปตันทีมอย่างเขาได้เลย ทั้งความเป็นผู้นำ การปกป้องลูกทีม แม้กระทั่งความกล้าบ้าบิ่น ทำให้เขาถูกยกให้เป็นสุดยอดกัปตันทีมที่ดีที่สุดของยูไนเต็ด โดยเขาย้ายออกจากทีมในปี 2005 ปิดตำนาน 12 ปี กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไปร่วมทัพ กลาสโกว์ เซลติก หลังจากนั้น 1 ปีเขาประกาศแขวนสตั๊ด

ทีมชาติ

สำหรับการลงเล่นให้กับทีมชาติของรอย คีน นั้นเขาติด U21 ตั้งแต่ในวัย 19 ปี ก่อนจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในเวลาต่อมา และในปี 2002 รอยคีนก็สามารถพาทีมชาติไอร์แลนด์ ไปลุยศึก World cup 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ด้วยความอารมณ์ร้อน เจ้าตัวได้ไปมีปัญหากับผู้จัดการทีม ทำให้โดนส่งตัวกลับประเทศไอร์แลนด์ จากนั้นอีก 3 ปี เขาก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไอร์แลนด์ โดยลงสนามทั้งหมด 67 นัด ทำเป็น 9 ประตู

ความสำเร็จระดับสโมสร

แมนยู

พรีเมียร์ลีก 7 สมัย : 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-00, 2000-01, 2002-03

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย : 1998-1999

คอมมิวนิตีชีลด์ 4 สมัย : 1994, 1996, 1997 , 2003

เอฟเอ คัพ : 1993-94, 1995-95, 1998-99, 2003-04

ความสำเร็จส่วนตัว

หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก : 2021

เกร็ดความรู้ของรอยคีน

ด้วยความดุดันทั้งในสนามซ้อมและสนามแข่ง เขาได้นิยามคำว่าสนามบอลเอาไว้ว่า “สนามบอลของผม ก็คือสนามรบ และผมมีหน้าที่ลงไปทำสงคราม เพื่อให้ฝั่งผมได้รับชัยชนะ” และสโมสรสำคัญกว่าตัวเองเสมอ เขาไม่ได้มีทักษะที่โดดเด่นไปกว่าใคร แต่นักเตะหลายๆ คนที่เคยดวลกับรอยคีน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือสุดยอดผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในผืนสนามหญ้าและเขาคือตำนานกัปตันทีมที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก รอยคีน ยอดกัปตันทีมพันธุ์ดุ

 

© 2022 Copyright: 1688UFABET เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย ฝาก-ถอน ออโต้ 24 ชั่วโมง